Skip to main content

สำนักงานแรงงาน จังหวัดสมุทรสงคราม

บทสรุปผู้บริหารไตรมาส 4/2552 (ต.ค.-ธ.ค.2552)

pll_content_description

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร
สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจและแรงงาน ไตรมาส4/2552 มีรายละเอียดสรุปได้ดังนี้

 

ภาวะเศรษฐกิจ

 

ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและการประมง ส่วนอุตสาหกรรมนั้นส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมขนาดเล็ก โดยอุตสาหกรรมที่สำคัญ ได้แก่ อุตสาหกรรมผลิตน้ำปลา อุตสาหกรรมอาหารอุตสาหกรรมแปรรูปสัตว์น้ำ อุตสาหกรรมแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร และมีโรงงานทั้งสิ้น 262 โรงงาน ทุนจดทะเบียนรวม6,547ล้านบาท จำนวนการจ้างงาน 8,755คนสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัดสมุทรสงครามอาจชะลอตัวเนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศที่ไม่ปกติ และสภาพเศรษฐกิจในขณะนี้ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนโดยรวมของประเทศไปอีกช่วงเวลาหนึ่งหรือจนกว่าสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศจะคลี่คลาย

ดัชนีราคาผู้บริโภคของจังหวัดสมุทรสงคราม
เดือน ธันวาคม 2552 และไตรมาสสี่ ของปี   2552

1.ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศเดือนธันวาคม 2552  ดัชนีราคาผู้บริโภคของประเทศเท่ากับ105.7และเดือนพฤศจิกายน 2552 เท่ากับ 105.8
2.ดัชนีราคาผู้บริโภคของจังหวัดสมุทรสงครามเดือนธันวาคม2552 ปี เทียบกับ ปี2550 ดัชนีราคาผู้บริโภคของจังหวัดสมุทรสงคราม เท่ากับ100 และเดือนธันวาคม 2552 เท่ากับ 111.9 สำหรับเดือน พฤศจิกายน 2552 เท่ากับ 113.0

3.การเปลี่ยนแปลงดัชนีราคาผู้บริโภคของจังหวัดสมุทรสงคราม เดือนธันวาคม 2552 เมื่อเทียบกับ

  3.1 เดือนพฤศจิกายน 2552 ลดลง    ร้อยละ 1.0

  3.2  เดือนธันวาคม 2551  สูงขึ้น ร้อยละ 4.4

  3.3 เฉลี่ยปี2552 เทียบกับปี 2551สูงขึ้นร้อยละ 3.2

4.ดัชนีราคาผู้บริโภคของจังหวัดสมุทรสงครามเดือนธันวาคม 2552 เทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2552 ลดลงร้อยละ 1.0 (เดือนพฤศจิกายน 2552 เทียบกับเดือนตุลาคม 2552 ลดลง ร้อยละ0.2)ซึ่งก่อนหน้านี้ดัชนีมีการเปลี่ยนแปลงสูงขึ้นและลดลงสำหรับดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มลดลง ร้อยละ 2.0

 5. พิจารณาเฉลี่ยเทียบกับเดือนพฤศจิกายน2551 ดัชนีสูงขึ้นร้อยละ 4.4 (ตุลาคม 2552เทียบกับตุลาคม 2551สูงขึ้นร้อยละ 4.0 สาเหตุจากการสูงขึ้นของดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้นร้อยละ 2.4 สำหรับหมวดข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้งสูงขึ้น ร้อยละ 5.1
สำหรับดัชนีหมวดอื่น ๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้น ร้อยละ 6.3สาเหตุสำคัญ จากการสูงขึ้นของน้ำมันเชื้อเพลิงร้อยละ57.30 หมวดการเคหสถาน ร้อยละ 6.70


6.ดัชนีราคาผู้บริโภคเฉลี่ยปี2552สูงขึ้นร้อยละ3.2 จากการสูงขึ้นของดัชนีราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้น ร้อยละ 7.1 โดยเฉพาะหมวดน้ำมันเชื้อเพลิงลดลง   ร้อยละ 8.90

 

สถานการณ์ด้านแรงงาน

ประชากรและกำลังแรงงาน  ประชากรมีจำนวนทั้งสิ้น  211,774 คน  เป็นผู้อยู่ในกำลังแรงงาน 128,633 คน  ผู้มีงานทำ  127,723  คน  ผู้ว่างงาน  910  คน  ส่วนผู้ไม่อยู่ในกำลังแรงงาน  47,136 คน  ทำงานบ้าน  21,341 คน  เรียนหนังสือ 11,107 คน  และอื่นๆ อีก          14,688  คน
ารมีงานทำ  ผู้มีงานทำจำนวน  127,723 คน  ทำงานในภาคเกษตรกรรม จำนวน  27,240  คน ร้อยละ 21.40 ของผู้มีงานทำทั้งหมด  ส่วนผู้ทำงานนอกภาคเกษตรกรรมมีจำนวน 100,481 คน ร้อยละ 78.60 โดยกลุ่มผู้ทำงานนอกภาคเกษตรกรรมจะทำงานในสาขาการผลิตมากที่สุด จำนวน  38,804  คน ร้อยละ 30.4 ของผู้ทำงานนอกภาคเกษตรกรรมทั้งหมด  รองลงมาคือ การขายส่ง การขายปลีก การซ่อมแซมยานยนต์ รถจักรยานยนต์ ของใช้ส่วนบุคคล และของใช้ในครัวเรือน จำนวน 23,734 คน ร้อยละ 18.60  สำหรับผู้มีงานทำส่วนใหญ่มีการศึกษาต่ำกว่าระดับประถมศึกษา จำนวน  37,520  คน หรือร้อยละ 29.40

 การบริการจัดหางานในประเทศ  ในช่วงไตรมาสที่ 4 (ตุลาคม-ธันวาคม)ปี2552มีตำแหน่งงานว่างที่แจ้งผ่านสำนักงานจัดหางานจังหวัดสมุทรสงคราม 358 อัตรา ซึ่งมีสัดส่วนที่ลดลง ร้อยละ 63.84 จากไตรมาสที่แล้วที่มีจำนวน 990   อัตรา  ในส่วนของผู้ลงทะเบียนสมัครงานในไตรมาสนี้  พบว่า  มี 576 คน  ซึ่งลดลง ร้อยละ 41.46จากไตรมาสที่แล้วที่มีจำนวน984  คน  ขณะที่ผู้ได้รับการบรรจุงานในไตรมาสนี้มีจำนวน 383 คน  ลดลงร้อยละ 53.58 จากไตรมาสที่แล้วที่มีจำนวน  825 คน  ทั้งนี้จากการที่จำนวนตำแหน่งงานว่างผู้ลงทะเบียนสมัครงานและบรรจุงานในไตรมาสนี้มีสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นมากกว่าจากไตรมาสที่แล้ว

ความต้องการแรงงาน   ในจังหวัดสมุทรสงคราม  ไตรมาสที่ 4 ปี 2552คาดประมาณว่าจะมีความต้องการแรงงานในระดับประถมศึกษาและต่ำกว่า คิดเป็นร้อยละ 49.92 (168 อัตรา) รองลงมาคือระดับ มัธยมศึกษา ร้อยละ 15.92 (57 อัตรา)  สำหรับความต้องการแรงงานภาคเอกชน ตามประเภทอุตสาหกรรม  ไตรมาสที่ 4 ปี 2552 พบว่า  อุตสาหกรรมการผลิตต้องการแรงงานภาคเอกชนมากที่สุด คือ ร้อยละ 58.10 (208 อัตรา)   รองลงมาคือ การขายส่ง การขายปลีก การซ่อมแซมยานยนต์รถจักรยานยนต์ของใช้ส่วนบุคคลและของใช้ในครัวเรือน ร้อยละ 20.11  (72 อัตรา)
แรงงานต่างด้าว  สำหรับไตรมาสที่ 4  ปี 2552 นี้  มีแรงงานต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยถูกต้องตามกฎหมายและได้รับอนุญาตให้ทำงาน มีจำนวนแรงงานต่างด้าวทั้งสิ้น  8,479  คน  มีแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ คือ 1)  สัญชาติพม่ามีจำนวน 8,289 คน ร้อยละ 97.75 ซึ่งเป็นแรงงานที่มีมากที่สุด   2)  สัญชาติลาวมีจำนวน 146 คน ร้อยละ 1.72 3) สัญชาติกัมพูชามีจำนวน 44 คน ร้อยละ 0.51

 แรงงานไทยในต่างประเทศ  ในช่วงไตรมาสที่  4  ปี  2552  จังหวัดสมุทรสงครามมีผู้ได้รับอนุญาตไปทำงานต่างประเทศ จำแนกตามวิธีการเดินทาง  ในไตรมาสที่ 4 ปี 2552 พบว่ามีจำนวนทั้งสิ้น  41  คน   เป็นประเภท Re-Entry   คือกลับไปทำงานอีกครั้งหนึ่งโดยการต่ออายุสัญญา จำนวน  41 คน  (ร้อยละ  100)ของแรงงานไทยที่ได้รับอนุญาตไปทำงานต่างประเทศ   ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพงานขั้นพื้นฐาน มีถึงร้อยละ 85.36 (35 คน) และรองลงมาช่างเทคนิคและผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องร้อยละ 14.63 (6 คน)
การพัฒนาฝีมือแรงงาน
สำหรับแผนการปฏิบัติการของศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดสมุทรสงครามในปีงบประมาณ 2523ระหว่างเดือนตุลาคม2552-มีนาคม2553ปรากฏผลการดำเนินงานเมื่อเทียบกับเป้าหมาย จำนวนทั้งสิ้น1,612คนแบ่งเป็นผลผลิตที่1แรงงานที่ถูกเลิกจ้าง/ว่างงาน แรงงานใหม่และผู้สนใจฝึกฝีมือได้รับการพัฒนาทักษะส่งเสริมการประกอบอาชีพ จำนวน 312คน  สามารถดำเนินงานได้ จำนวน 445  คน    คิดเป็นร้อยละ 142.63  ของเป้าหมายรอบ 6 เดือน ( 1 ต.ค. 52-31 มี.ค. 53) และผลผลิตที่๒ แรงงานในระบบการจ้างงานได้รับการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะฝีมือที่มีมาตรฐาน จำนวน 1,300  คน  สามารถดำเนินงานได้ จำนวน 3,408  คน   คิดเป็นร้อยละ 262.15  ของเป้าหมายของเป้าหมายรอบ 6 เดือน ( 1 ต.ค. 52-31 มี.ค.53)

การพัฒนาฝีมือแรงงาน สำหรับแผนการปฏิบัติการของศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดสมุทรสงครามในปีงบประมาณ 2553 ระหว่างเดือนตุลาคม 2552- มีนาคม 2553 ปรากฏผลการดำเนินงานเมื่อเทียบกับเป้าหมาย จำนวนทั้งสิ้น 1,612 คน แบ่งเป็นผลผลิตที่1แรงงานที่ถูกเลิกจ้าง/ว่างงาน แรงงานใหม่และผู้สนใจฝึกฝีมือได้รับการพัฒนาทักษะส่งเสริมการประกอบอาชีพ จำนวน 312  คน  สามารถดำเนินงานได้ จำนวน 445  คน   คิดเป็นร้อยละ 142.63  ของเป้าหมายรอบ 6 เดือน ( 1 ต.ค. 52-31 มี.ค. 53) และผลผลิตที่
2แรงงานในระบบการจ้างงานได้รับการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะฝีมือที่มีมาตรฐาน
จำนวน 1,300  คน  สามารถดำเนินงานได้ จำนวน 3,408  คน    คิดเป็นร้อยละ 262.15  ของเป้าหมายของเป้าหมายรอบ 6 เดือน ( 1 ต.ค. 52-31 มี.ค. 53)

การคุ้มครองแรงงาน
  การตรวจแรงงานได้ดำเนินการตรวจสถานประกอบการทั้งสิ้น 87 แห่ง  มีลูกจ้างที่ผ่านการตรวจหรือได้รับการคุ้มครองรวม  1,648  คน ซึ่งสถานประกอบการที่ตรวจส่วนใหญ่เป็นสถานประกอบการขนาด 1-4  คน   คิดเป็นร้อยละ35.63 (31 แห่ง) รองลงมาเป็น

สถานประกอบการขนาด  5-9 คนคิดเป็นร้อยละ20.68  (18 แห่ง) ผลการตรวจสถานประกอบการในไตรมาสนี้ สถานประกอบการที่ปฏิบัติถูกต้องจำนวน 3  แห่ง 

การตรวจความปลอดภัยในการทำงาน  ได้ดำเนินการตรวจความปลอดภัยในสถานประกอบการทั้งสิ้น 56 แห่ง  ลูกจ้างที่ผ่านการตรวจทั้งสิ้น 2,140 คน  ประเภทอุตสาหกรรมที่มีการตรวจความปลอดภัยสูงสุดในไตรมาส  4  ปี  2552  คือ  ประเภทการผลิตจำนวน 32 แห่ง ร้อยละ 57.15   ส่วนผลของการตรวจ พบว่า สถานประกอบการที่ปฏิบัติถูกต้องมี  42  แห่ง คิดเป็นร้อยละ 75.00 และสถานประกอบการที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องมี  14   แห่ง คิดเป็น 25.00

การเลิกจ้างแรงงาน  ในไตรมาส 4 ปี 2552  มีสถานประกอบการที่เลิกกิจการจำนวน 18 แห่ง และมีลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างจำนวน 51คน ส่วนใหญ่เป็นสถานประกอบการขนาดเล็ก  คือขนาด  1 9  คน  จำนวน 17 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 99.45 โดยมีลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้าง จำนวน 38 คน ร้อยละ 74.50และ10 คนขึ้นไปจำนวน 1 แห่งร้อยละ5.55ลูกจ้าง13 คน ร้อยละ 25.50 ของลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างทั้งหมด

                การประกันสังคม  ข้อมูล  เดือนตุลาคม – ธันวาคม 2552  พบว่าจังหวัดสมุทรสงครามมีสถานประกอบการที่ขึ้นทะเบียนประกันสังคม  จำนวน  1,006  แห่ง อุตสาหกรรมที่มีสถานประกอบการขึ้นทะเบียนมากที่สุด คือประเภทการขายส่ง การขายปลีก การซ่อมแซมยานยนต์ รถจักรยานยนต์ ของใช้ส่วนบุคคลและของใช้ในครัวเรือน จำนวน 356 แห่ง ร้อยละ 35.38 รองลงมาคือ การผลิต จำนวน 208 แห่ง ร้อยละ 20.67 การบริหารราชการ และการป้องกันประเทศ รวมทั้งการประกันสังคมภาคบังคับ  จำนวน 94 แห่ง ร้อยละ 9.35 ในปัจจุบันจังหวัดสมุทรสงคราม มีสถานพยาบาลในสังกัดประกันสังคม ทั้งสิ้นจำนวน 1  แห่ง โดยเป็นสถานพยาบาลของรัฐบาล

กองทุนประกันสังคม  ข้อมูล เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2552  จำนวนการใช้บริการของกองทุนประกันสังคม  พิจารณาตามประเภทของประโยชน์ทดแทนซึ่งมี 7 กรณี ได้แก่  เจ็บป่วย  คลอดบุตร  ทุพพลภาพ  ตาย  สงเคราะห์บุตร  ชราภาพ  และว่างงาน  พบว่า  จำนวนผู้ใช้บริการมีทั้งสิ้น2,764ราย ซึ่งจำนวนผู้ใช้บริการในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.02 จากไตรมาสที่แล้ว ที่มีจำนวน2,462ราย  สำหรับประเภทประโยชน์ทดแทนที่ผู้ประกันตนใช้บริการสูงสุดในไตรมาสนี้ได้แก่  กรณีเจ็บป่วย  มีผู้ประกันตนใช้บริการ  1,795  ราย  คิดเป็น ร้อยละ 64.95 ของผู้ใช้บริการทั้งหมด   การจ่ายเงินประโยชน์ทดแทน  พบว่า  มีการจ่ายเงินในไตรมาสนี้มีจำนวนทั้งสิ้น  15,014,129.74  บาท โดยกรณีคลอดบุตรมีการจ่ายเงินสูงสุดถึง 3,956,050.00  บาท   คิดเป็น  ร้อยละ  26.35  ของเงินประโยชน์ที่จ่าย

 

 

ข้อมูลและสภาพเศรษฐกิจของจังหวัดสมุทรสงคราม
ความเป็นมาตั้งแต่อดีต

 

จังหวัดสมุทรสงครามไม่ปรากฏแน่ชัดว่าตั้งขึ้นเมื่อใด เดิมเข้าใจว่าเป็นแขวงหนึ่งของจังหวัดราชบุรีมีีชื่อเรียกว่า สวนนอก”   ครั้นต่อมาในราวปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาต่อสมัยกรุงธนบุรีเรียกว่า  

เมืองแม่กลองทั้งนี้อาศัยเค้าเงื่อนจากหนังสือลำดับราชนิกูลบางช้าง   มีเรื่องเล่ากันว่าสมเด็จพระอัมรินทราบรมราชนนีพระบรมราชชนนีของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย   และพระญาติวงศ์มีพระเวศสถานที่ดั้งเดิมอยู่ที่อำเภออัมพวา  (บางช้าง)   แขวงอำเภอบางช้าง   ซึ่งต่อมาเป็นจังหวัดสมุทรสงคราม   มีอาณาเขตแยกออกจากแขวงจังหวัดราชบุรีขึ้นไปตามลำน้ำแม่กลอง ทางฝั่งตะวันออก  คลองป่าช้าวัดบางพรหมลัดติดต่อไปตามลำคลอง   และลำประโดงสวนไปจดหนองน้ำคั้นที่ตำบลดอนมะโนรา ในเขตจังหวัดราชบุรีและขนาบลงไปจดทะเลติดกับจังหวัดสมุทรสาคร  มีลำรางราชเดชะเป็นเขตฝั่งแม่น้ำแม่กลองตะวันตกแบ่งแยกจากจังหวัดราชบุรี   ตั้งแต่แม่น้ำแควอ้อมฝั่งตะวันตกไปจดคลองบางเชิงกรานลึกต่อเข้าไปตามลำคลอง     และลำประโดงสวนจรดคลองวันดาววกลงทะเลที่คลองยี่สารเป็นเขตติดต่อกับจังหวัดเพชรบุรีทั้งหมดนั้นเป็นบริเวณจังหวัดสมุทรสงคราม  ซึ่งแบ่งออกเป็นแขวงๆ  มีกำนันเป็นหัวหน้าปกครอง


ในด้านการสงครามรักษาแผ่นดินนั้น สมุทรสงครามก็เป็นเมืองสำคัญทางยุทธศาสตร์ เนื่องจากมีเส้นทางที่สามารถเดินเรือเข้าสู่ราชธานีได้ จากความสำคัญอันนี้สมเด็จพระที่นั่งสุริยามรินทร์(พระเจ้าเอกทัศน์) จึงโปรดให้ตั้งเป็นกองทัพเรือไว้ที่ตำบลบางกุ้ง  โดยสร้างค่ายล้อมวัดบางกุ้งไว้ เรียกว่า  “ค่ายบางกุ้ง” ค่ายนี้ถูกพม่าตีแตกเมื่อครั้งเสียกรุงครั้งที่  2 ในปี พ.ศ. 2310 ต่อมาในสมัยกรุงธนบุรีได้ตั้งค่ายนี้ขึ้นมาใหม่เป็นค่ายจีนบางกุ้ง   และค่ายนี้ได้ใช้ราชการสงครามครั้งสุดท้ายในปี  พ.ศ. 2311 ที่พม่ายกกองทัพมาล้อมค่ายไว้     สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช   พร้อมด้วยพระมหามนตรี(บุญมา) ยกกองทัพเรือตีพม่าแตกพ่ายไปครั้งนั้นนับเป็นครั้งสุดท้ายที่พม่าได้เหยียบแผ่นดินสมุทรสงคราม
ขนาดและที่ตั้ง

จังหวัดสมุทรสงคราม  เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่น้อยที่สุดในประเทศไทยคือ  มีพื้นที่เพียง 416.7  ตารางกิโลเมตร  หรือ  260,422  ไร่ ประมาณร้อยละ0.08ของเนื้อที่ทั้งประเทศ ตั้งอยู่ทางตอนล่างของภาคกลางโดยตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลอ่าวไทย บริเวณปากแม่น้ำแม่กลองห่างจากกรุงเทพมหานครไปทางตะวันตกเฉียงใต้  ตามระยะทางหลวงแผ่นดินสายที่ 35     (ธนบุรี – ปากท่อ)  ประมาณ  65 กิโลเมตร

 

อาณาเขตติดต่อ

 

ทิศเหนือติดจังหวัดราชบุรีและจังหวัดสมุทรสาครโดยมีลำคลองดอนมะโนราและ  รางห้าตำลึงในเขตท้องที่อำเภอบางคนทีและอำเภอเมืองสมุทรสงครามเป็นแนวแบ่งเขต
ทิศตะวันออก  ติดจังหวัดสมุทรสาคร   ที่คลองพรมแดนท้องที่อำเภอเมือง
ทิศใต้  ติดทะเลอ่าวไทยตรงปากแม่น้ำแม่กลอง และจังหวัดเพชรบุรี
ทิศตะวันตก  ติดต่อกับจังหวัดราชบุรี  และจังหวัดเพชรบุรี  โดยมีลำคลองวัดประดู่ เป็นแนวแบ่งเขตในท้องที่อำเภออัมพวา

ลักษณะภูมิประเทศ

พื้นที่โดยทั่วไปของจังหวัด เป็นที่ราบลุ่มริมทะเลโดยตลอด   สภาพของดินเป็นดินเหนียวปนทราย  ไม่มีภูเขาหรือเกาะเดิมเคยมีป่าไม้โกงกางไม้แสนตามชายฝั่งทะเลและมีป่าตามแนวปากแม่น้ำ  แต่ปัจจุบันได้มีการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ดังกล่าวในการเลี้ยงกุ้งกุลาดำเกือบทั้งหมด   ต่อมาการเลี้ยงกุ้งได้เกิดการขาดทุน ทำให้ปล่อยบ่อกุ้งรกร้างจำนวนมาก  แม่น้ำสายสำคัญที่ไหลผ่าน  คือแม่น้ำแม่กลองไหลผ่านบริเวณท้องที่อำเภอบางคนที     อำเภออัมพวาไปออกทะเลอ่าวไทยที่บริเวณปากแม่น้ำแม่กลอง ในเขตอำเภอเมืองสมุทรสงครามนอกจากนี้ยังมีลำคลองใหญ่น้อยมากมาย แยกจากแม่น้ำแม่กลองกว่า 336 คลอง กระจายอยู่ทั่วทุกพื้นที่ จากสภาพภูมิประเทศเช่นนี้ทำให้เกิดความสะดวกในด้านการคมนาคมทางน้ำ และการประกอบอาชีพด้านการเกษตร

 

ลักษณะภูมิอากาศ

 

โดยจังหวัดสมุทรสงครามติดต่อกับอ่าวไทยจึงได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้ พัดเอาฝนมาตกในฤดูฝนมาพอสมควรประกอบกับอยู่ใกล้ทะเลจึงมีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ ในฤดูหนาวอากาศจึงไม่หนาวจัดในฤดูร้อนก็ไม่ร้อนจนเกินไปอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปี  ประมาณ28.1องศาเซลเซียสพายุและฟ้าคะนองจะเกิดขึ้นในจังหวัดนี้ในระหว่างฤดูฝนและฤดูร้อนคือระหว่างเดือนเมษายนและพฤษภาคม  ซึ่งเป็นระยะเวลาก่อนที่จะมีมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ นอกจากนี้อาจได้รับพายุดีเปรสชั่นซึ่งเคลื่อนตัวจากทะเลจีนใต้ เข้ามาทางฝั่งเวียดนามในสภาพของพายุใต้ฝุ่นหรือโซนร้อน ทำให้ฝนตกหนักต่อเนื่องกันและอาจก่อให้เกิดอันตรายได้
จังหวัดสมุทรสงคราม แบ่งการปกครองส่วนภูมิภาค  เป็น
 3  อำเภอ 36  ตำบล  284หมู่บ้าน โดยมีอำเภอต่าง ๆ  ดังนี้ อ.เมืองสมุทรสงคราม  อ.บางคนที  และ อ.อัมพวา

การบริหารราชการส่วนท้องถิ่น  มี  3  รูปแบบ  ได้แก่

1.องค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 แห่ง คือ

– องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสงคราม

2. เทศบาลจำนวน 5 แห่ง คือ
เทศบาลเมืองสมุทรสงคราม

 – เทศบาลตำบลกระดังงา

เทศบาลตำบลบางนกแขวก

เทศบาลตำบลอัมพวา

เทศบาลตำบลเหมืองใหม่

3.องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)  33 แห่ง
     แยกเป็นอำเภอเมืองสมุทรสงคราม 10  อบต. อำเภอ   บางคนที 12 อบต. และอำเภออัมพวา 11 อบต.

 

การประกอบอาชีพ

 

ประชากรส่วนใหญ่ร้อยละ 80 ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและกสิกรรม  ได้แก่ การทำสวนมะพร้าว การทำสวนผลไม้ ลิ้นจี่ ส้มโอ กล้วย พืชผักต่างๆทำประมงและทำนาข้าวบ้างเล็กน้อยอุตสาหกรรมที่สำคัญของจังหวัด      ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มอุตสาหกรรมน้ำปลา  น้ำตาลสด ผ่านระบบการฆ่าเชื้อ(สเตอรีไลน์)น้ำตาลมะพร้าวอุตสาหกรรมผลิตอาหารสัตว์  แปรรูปสัตว์น้ำอุตสาหกรรมแปรรูปไม้อุตสาหกรรมห้องเย็นซ่อมเครื่องยนต์   อุปกรณ์ เครื่องและเรือ ฯลฯ

 

 

ทรัพยากรธรรมชาติและแหล่งน้ำ

 

 

ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญที่สุดของจังหวัดได้แก่  แม่น้ำแม่กลอง ซึ่งมีต้นน้ำเกิดจากแม่น้ำแควน้อยและแควใหญ่ในจังหวัดกาญจนบุรี ไหลผ่านจังหวัดราชบุรีและไหลลงสู่อ่าวไทยที่จังหวัดสมุทรสงคราม  มีความยาวทั้งสิ้น520กิโลเมตรและช่วงที่ไหลผ่านจังหวัดสมุทรสงครามมีความยาว   22กิโลเมตร       แม่น้ำนี้ไหลผ่านทุกอำเภอของจังหวัดสมุทรสงคราม   ประชาชนของจังหวัดนี้จึงมีชีวิตและความเป็นอยู่ผูกพันกับแม่น้ำแม่กลองมาตั้งแต่โบราณกาลประชาชนได้อาศัยแม่น้ำนี้สำหรับ การอุปโภคบริโภค เป็นเส้นทางคมนาคมขนส่ง    เป็นแหล่งประมงน้ำจืดขนาดใหญ่ และนอกจากนี้ประชาชนยังอาศัยน้ำจากแม่น้ำใช้ในการเพาะปลูกอีกด้วย 
              สรุปภาวะเศรษฐกิจไตรมาสที่ 4 ปี 2552
ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและการประมง  ส่วนอุตสาหกรรมนั้นส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมขนาดเล็ก โดยอุตสาหกรรมที่สำคัญได้แก่อุตสาหกรรมผลิตน้ำปลาอุตสาหกรรมอาหารอุตสาหกรรมแปรรูปสัตว์น้ำ อุตสาหกรรมแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร และมีโรงงานทั้งสิ้น 262 โรงงาน ทุนจดทะเบียนรวม 6,547 ล้านบาท จำนวนการจ้างงาน 8,755คนสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัดสมุทรสงครามอาจชะลอตัวเนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไม่ปกติ และสภาพเศรษฐกิจในขณะนี้ซึ่งอาจส่งผละกระทบต่อการลงทุนโดยรวมของประเทศไปอีกช่วงเวลาหนึ่งหรือจนกว่าสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศจะคลี่คลาย
            การขยายตัวภาคอุตสาหกรรม

                 พาณิชยกรรมและบริการ

ข้อมูลจากสำนักปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสงคราม ไตรมาสที่ 4/2552 มีการจดทะเบียนพาณิชย์รวมทั้ง 3 อำเภอ ข้อมูล ณ เดือนพฤศจิกายน2552มีการจดทะเบียนพาณิชย์สำหรับกิจการที่จัดตั้งใหม่จำนวน 20 แห่ง (อำเภอเมือง 16 แห่ง อำเภออัมพวา 8 แห่ง และอำเภอบางคนที 2 แห่ง) เลิกกิจการ 3 แห่ง (อำเภอเมือง 3 แห่ง ส่วนอำเภออัมพวาและอำเภอบางคนที ไม่มีการเลิกกิจการ  ปัจจุบันมียอดสะสมทะเบียนพาณิชย์ ทั้งสิ้น รวม 3 อำเภอ จำนวน 1,517 แห่ง

        ดัชนีราคาผู้บริโภคของจังหวัดสมุทรสงคราม
                    เดือน
ธันวาคม2552   และไตรมาสสี่ของปี   2552
1.ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศเดือนธันวาคม2552 เมื่อเทียบกับปี2550  ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ เท่ากับ 100เดือนธันวาคม2552เท่ากับ 105.7 เทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2552 ลดลงร้อยละ 0.1 เฉลี่ยของทั้งปี2551ลดลงร้อยละ 0.9

2. ดัชนีราคาผู้บริโภคของจังหวัดสมุทรสงครามเดือนธันวาคม 2552 เมื่อเทียบกับ  ปี 2550 ดัชนีราคาผู้บริโภคของจังหวัดสมุทรสงคราม เท่ากับ 100 และเดือนธันวาคม 2552  เท่ากับ 111.9 สำหรับเดือนพฤศจิกายน 2552  เท่ากับ 113.0

3.การเปลี่ยนแปลงดัชนีราคาผู้บริโภคของจังหวัดสมุทรสงคราม เดือนธันวาคม 2552 เมื่อเทียบกับ

3.1   เดือนพฤศจิกายน 2552 ลดลง

ร้อยละ 1.0

3.2   เดือน
ธันวาคม 2551 สูงขึ้น  ร้อยละ 4.4

 

3.3   เฉลี่ยปี2552 เทียบกับปี 2551 สูงขึ้นร้อยละ 3.2
4. ดัชนีราคาผู้บริโภคของจังหวัดสมุทรสงครามเดือนธันวาคม 2552 เทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2552 ลดลงร้อยละ 1.0 (เดือนพฤศจิกายน 2552 เทียบกับเดือนตุลาคม 2552  ลดลง ร้อยละ0.2)จากการลดลงของดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มลดลงร้อยละ0.2

4.1ดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มลดลงร้อยละ2.0สำหรับสินค้าที่มีราคาสูงขึ้นได้แก่ดัชนีหมวดข้าวแป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้งร้อยละ 0.6 หมวดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ลดลง ร้อยละ 0.5 

4.2ดัชนีหมวดอื่นๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มโดยเฉลี่ยไม่เปลี่ยนแปลง สาเหตุสำคัญจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกยังคงปรับตัวลดลงตามภาวะราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก  ทำให้ดัชนีหมวดน้ำมันเชื้อเพลิงลดลงร้อยละ1.2ส่วนหมวดการตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคลสูงขึ้น ร้อยละ 0.2 ได้แก่ ยาแก้ไอ  ยาแก้ท้องเสีย  ยาคุมกำเนิด  ยาหอม  ยาบรรเทาปวดกล้ามเนื้อ  กระดาษชำระ  ผ้าอนามัย เป็นต้น
5. พิจารณาเทียบเดือนพฤศจิกายน 2551ดัชนีสูงขึ้นร้อยละ 4.4 (เดือนตุลาคม 2552เทียบกับเดือนตุลาคม 2551 สูงขึ้น 0.4) สาเหตุจากการสูงขึ้นของดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้นร้อยละ 2.4 โดยหมวดข้าว แป้งและผลิตภัณฑ์จากแป้ง ร้อยละ 5.1  สำหรับดัชนีหมวดอื่น ๆ ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้น ร้อยละ 6.3 สาเหตุสำคัญจาการสูงขึ้นของน้ำมันเชื้อเพลิงร้อยละ 57.3 และหมวดเคหสถาน         ร้อยละ 6.7

6.พิจารณาเฉลี่ยปี2552สูงขึ้นร้อยละ3.2จากการสูงขึ้นของดัชนีราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่มสูงขึ้น ร้อยละ 7.1 โดยเฉพาะหมวดน้ำมันเชื้อเพลิงลดลง ร้อยละ 8.9 หมวดเครื่องนุ่มห่มและรองเท้าลดลงร้อยละ 2.2

 

ความเคลื่อนไหวของโรงงานอุตสาหกรรม

 

ในปี 2552 จังหวัดสมุทรสงครามมีโรงงานทั้งหมด ณ เดือน  ธันวาคม 2552     จำนวน 262 โรงงาน  จำนวนเงินลงทุน จำนวน6,547  ล้านบาท จำนวนแรงงานทั้งหมด 8,755คน (เพศชาย 5,321 คน และเพศหญิง 3,434 คน)

 

 


             

 

 

 


 


 

 

 

TOP